การผลิตเป็นรากฐานของประเทศ เป็นพื้นฐานของประเทศที่เข้มแข็ง เป็นเสาหลักสำคัญของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญถึงความแข็งแกร่งของประเทศ

ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา Made in China ได้กลายเป็นกำลังสำคัญในการผลิตระดับโลกอย่างรวดเร็ว ด้วยประสิทธิภาพสูง ต้นทุนต่ำ และข้อได้เปรียบในขนาด เราได้ผลิตของเล่น เครื่องใช้ในบ้าน เสื้อผ้า และผลิตภัณฑ์อื่นๆ มากขึ้นในโลก* โดยจัดหาสินค้าคุณภาพดีและราคาไม่แพงจำนวนมากให้กับตลาดโลก

อย่างไรก็ตาม ด้วยค่าแรงที่เพิ่มขึ้น แรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อม และการเกิดขึ้นของนวัตกรรมทางเทคโนโลยี การผลิตในจีนกำลังเผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

นอกจากจีนแล้ว อุตสาหกรรมการผลิตของญี่ปุ่น เยอรมนี และสหรัฐอเมริกาก็ประสบปัญหาที่แตกต่างกันเช่นกัน

มูลค่าผลผลิตของอุตสาหกรรมการผลิตของญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างมาก ซึ่งส่วนใหญ่รวมอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่มีความแม่นยำสูงบางอย่าง เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ วัสดุชิป เครื่องมือที่มีความแม่นยำ เครื่องมือกล CNC เป็นต้น แม้ว่าญี่ปุ่นจะมีกระแสการผลิตจำนวนมากไปยังประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย แต่ญี่ปุ่นก็ไม่ยอมแพ้อุตสาหกรรมการผลิต แต่ต้องยกระดับและเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการผลิตอย่างต่อเนื่อง

เยอรมนีเป็นหนึ่งในประเทศผู้ผลิตที่สำคัญของโลก แต่ความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมการผลิตของเยอรมนีอ่อนแอลงเนื่องจากต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ในเวลาเดียวกัน ปัจจัยต่างๆ เช่น ต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อได้รวมกันจนทำให้การพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตของเยอรมนีถูกขัดขวาง แม้ว่าอุตสาหกรรมการผลิตของเยอรมนีจะเผชิญกับความยากลำบากและความท้าทาย รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจของเยอรมนีก็ยังคงพยายามใช้มาตรการเพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าว รวมถึงการส่งเสริมความคิดริเริ่มต่างๆ เช่น อุตสาหกรรม 4.0 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและนวัตกรรมของอุตสาหกรรมการผลิต
ในส่วนของภาคการผลิตของสหรัฐฯ เผชิญกับความท้าทายจากคู่แข่งในต่างประเทศ ด้วยการเพิ่มขึ้นของการผลิตในประเทศอื่นๆ ส่วนแบ่งของภาคการผลิตของสหรัฐอเมริกาในตลาดโลกจึงค่อยๆ ลดลง ในเวลาเดียวกัน ความสามารถในการแข่งขันระหว่างประเทศของอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐอเมริกายังได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ เช่น ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ และความไม่มั่นคงในห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก

ปัจจุบัน สหรัฐอเมริกาได้ดำเนินนโยบาย "การคืนอุตสาหกรรมการผลิต" โดยสนับสนุนให้องค์กรต่างๆ คืนสายการผลิตไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อลดความเสี่ยงและต้นทุนทางการค้าระหว่างประเทศ นอกจากนี้ องค์กรในสหรัฐฯ ยังดำเนินการนวัตกรรมทางเทคโนโลยี รวมถึงการเปลี่ยนแปลงและการอัพเกรดอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและลดต้นทุน

โดยทั่วไป จีน ญี่ปุ่น เยอรมนี และสหรัฐอเมริกามีข้อได้เปรียบในการพัฒนาและคุณลักษณะเฉพาะของอุตสาหกรรมการผลิตเป็นของตัวเอง และกำลังตอบสนองต่อโอกาสและความท้าทายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลอย่างแข็งขัน